ผู้รับซื้อจะเริ่มต้นจากข้อมูลที่ลูกค้าแจ้งมา เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการรับซื้อ
แจ้งข้อมูลรถ: ผู้ขายต้องแจ้ง ยี่ห้อ, รุ่น, ปี, เลขทะเบียน, และสภาพความเสียหาย ของรถอย่างละเอียด (เช่น ชนหนักด้านหน้า, น้ำท่วมถึงเบาะ, เครื่องยนต์ไม่เหลือ)
สถานะทางกฎหมาย: สอบถามสถานะของรถว่า:
มี เล่มทะเบียนตัวจริง หรือไม่ (สำคัญมากในการโอนกรรมสิทธิ์)
ผ่อนหมดแล้ว หรือ ยังติดไฟแนนซ์ อยู่
ภาษีประจำปี หมดอายุแล้วหรือไม่
ส่งภาพถ่าย: ผู้ขายส่งภาพถ่ายซากรถจากหลายมุม รวมถึงภาพความเสียหายและภาพภายใน เพื่อให้ผู้รับซื้อสามารถประเมินราคาเบื้องต้นได้
การประเมินราคาเบื้องต้น: ผู้รับซื้อจะประเมินมูลค่าของซากรถ โดยอ้างอิงจากราคาอะไหล่ที่ยังใช้งานได้ (เช่น ตัวถังที่ไม่เสียหาย, เครื่องยนต์, เกียร์, ชุดภายใน) ลบด้วยค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและการจัดการซาก
นัดหมายตรวจสอบหน้างาน: หากตกลงราคากันได้ในเบื้องต้น ผู้รับซื้อจะนัดหมายเพื่อเข้าตรวจสอบสภาพซากรถจริง ณ สถานที่จอด (Home Visit)
ยืนยันราคาซื้อ: เมื่อตรวจสอบสภาพจริงและเอกสารหลักฐานแล้ว ผู้รับซื้อจะเสนอ ราคาสุดท้าย ซึ่งมักจะครอบคลุมค่าขนย้ายเรียบร้อยแล้ว
การซื้อขายซากรถยังคงต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งทางบกเหมือนการซื้อขายรถทั่วไป (แม้ว่าซากรถจะไม่สามารถนำไปจดทะเบียนใช้งานได้ตามปกติแล้วก็ตาม)
ผู้ขายต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม ดังนี้:
สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มทะเบียนตัวจริง)
สำเนาบัตรประชาชน ของเจ้าของรถ
หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ (กรณีเจ้าของรถไม่สะดวกไปดำเนินการโอนเอง)
แบบคำขอโอนและรับโอน ที่กรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อเรียบร้อย
ทำสัญญาซื้อขาย: จัดทำสัญญาซื้อขายซากรถยนต์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ระบุราคาและเงื่อนไขให้ชัดเจน
ชำระเงิน: ผู้รับซื้อจะชำระเงินค่าซากรถให้กับผู้ขายทั้งหมด
ส่งมอบซากและเอกสาร: ผู้ขายส่งมอบซากรถและเอกสารทั้งหมด (ตามข้อ 3.1) ให้กับผู้รับซื้อในวันเดียวกัน
การโอนกรรมสิทธิ์: ผู้รับซื้อจะเป็นผู้นำเอกสารไปดำเนินการ โอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมการขนส่งทางบก หรืออาจใช้วิธี โอนลอย เพื่อนำรถออกจากพื้นที่ก่อน แล้วค่อยไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ภายหลัง (แต่ควรระบุในสัญญาให้ชัดเจน)
สถานการณ์ | สิ่งที่ต้องดำเนินกร (โดยผู้ขาย) |
ถติดไฟแนนซ์ | ห้าม ขายซากรถเองเด็ดขาด ต้อง แจ้งไฟแนนซ์ ก่อน เนื่องจากกรรมสิทธิ์ยังเป็นของไฟแนนซ์ ผู้รับซื้อจะต้องดำเนินการเจรจากับไฟแนนซ์โดยตรง หรือผู้ขายต้องปิดยอดหนี้คงค้างก่อน |
ซากรถไม่มีเล่มทะเบียน | ราคาจะต่ำลงอย่างมาก และผู้รับซื้ออาจไม่รับซื้อ เนื่องจากติดข้อกำหนดของกรมการขนส่งฯ การซื้อขายต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต |
ภาษีขาดเกิน 3 ปี | รถคันนั้นจะถูกระงับทะเบียนโดยอัตโนมัติ ผู้รับซื้อจะต้องนำไป แจ้งระงับการใช้รถ (ถ้ายังไม่ได้ระงับ) หรือ แจ้งยกเลิกการใช้งาน ที่ขนส่ง |